จำนวนการดูหน้าเว็บรวม (เริ่มนับ พฤศจิกายน 2553)

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การส่งเสริมการออกกำลังกายโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างยั่งยืน ตำบลแร่ 2554


สรุปการส่งเสริมการออกกำลังกายโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างยั่งยืน
ตำบลแร่  อำเภอพังโคน  จังหวัดสกลนคร  ปี
2554
สภาพปัญหา หลักการและเหตุผล
          เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เบาหวานและความดันโลหิตสูง มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินหวาน มัน เค็ม การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ ความอ้วน รอบเอวเกิน และขาดการออกกำลังกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงและส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เป็นมาตรการที่สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้
          ข้อมูลจากการคัดกรองความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชาชนกลุ่มเป้าหมาย
35 ปีขึ้นไปในพื้นที่ตำบลแร่ เมื่อต้นปีงบประมาณ 2554 พบว่า มีกลุ่มเสี่ยงที่มีค่า BMI เกิน มากถึงร้อยละ 42.95 นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการอบรมในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตำบลแร่ ยังขาดการสนับสนุนด้านการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบที่ต่อเนื่องโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน  การออกกำลังกายถือเป็นพื้นฐานของการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี และการวิ่งก็เป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ดังนั้นหากมีการส่งเสริมการจัดวิ่งเป็นประจำทุกเดือน จะสามารถส่งเสริมให้กลุ่มเสี่ยงได้มีสนามวิ่งออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง โดยจะส่งผลให้กลุ่มเสี่ยงได้รับการกระตุ้นให้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถทำให้ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ลดลง

กระบวนการดำเนินงาน
         
- จัดทำโครงการวิ่งทดสอบสมรรถภาพ 2.4 กม./วิ่งจ้าวสนาม 5 กม.และจัดทำแผนการวิ่งหมุนเวียนหมู่บ้าน โดยการมีส่วนร่วมของ อสม. ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพตำบลแร่, ผู้นำชุมชน, เยาวชน, อบต., รพ.สต.
          - กำหนดบทบาทหน้าที่ของการมีส่วนร่วมขององค์กร กลุ่มบุคคลที่มีส่วนร่วมในชุมชน ดังนี้
                  
1. อบต. / กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล สนับสนุนงบประมาณ และเจ้าหน้าที่ อปพร.
                  
2. รพ.สต. สนับสนุน บุคลากร และทรัพยากร เช่น  แบบฟอร์มบันทึกข้อมูลต่างๆ คอมพิวเตอร์โน้ตบุค เบอร์ติดหน้าอก จัดทำเกียรติบัตร และเป็นที่ปรึกษาในการจัดกิจกรรมในภาพรวม
                  
3. ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. มีบทบาทในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม และเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง
                  
4. ชมรม อสม. และชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ  มีบทบาทในการประสานงานสมาชิก อสม. และสมาชิกชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพเข้าร่วมกิจกรรมตามแผนที่กำหนด, จัดบริการน้ำดื่ม, จัดบริการข้าวต้ม, จัดเตรียมสถานที่
                  
5. เยาวชน มีบทบาทในการรับลงทะเบียนนักวิ่งและแจกเบอร์ติดหน้าอก การประมวลผลนักวิ่งที่เข้าเส้นชัย (แจกป้ายคล้องคอ เรียงลำดับ 1,2,3 แยกตามกลุ่มอายุที่กำหนด) บันทึกข้อมูลในโปรแกรมคอมพิวเตอร์  รับรายงานตัวนักวิ่งที่ได้รับป้ายป้ายคล้องคอ
         
- ดำเนินการจัดกิจกรรมวิ่งหมุนเวียนหมู่บ้าน ตามแผนที่กำหนดไว้
         
- ประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยคณะผู้จัดกิจกรรม (อสม., เยาวชน, จนท.สธ.)
         
- สรุปปัญหาในการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง และวางแผนแก้ไขปัญหาในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป
         
- สร้างแรงจูงใจให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นจิตอาสาช่วยจัดกิจกรรม โดยมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้กับเยาวชนที่มาช่วยกิจกรรม (ทุกสนามที่มาช่วยกิจกรรม)

ผลลัพธ์การดำเนินงาน
         
- มีกิจกรรมการออกกำลังกายในชุมชนอย่างต่อเนื่องประจำทุกเดือน
         
- มีภาคีเครือข่ายในการร่วมกันดำเนินงานส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างชัดเจน (กลุ่มเยาวชน, ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ, ชมรม อสม., ผู้นำชุมชน, อบต., และ รพ.สต. ) โดยชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพและชมรม อสม. เป็นแกนหลักในการดำเนินงาน  ส่วน รพ.สต. เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงาน
         
- พบว่าจำนวนผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ลดลง กล่าวคือ ในปี 2553 พบผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย และในปี 2554 พบผู้ป่วยรายใหม่เพียง  9 ราย
         
- พบว่ากลุ่มเสี่ยงที่มีค่า BMI เกิน มีจำนวนลดลง จากร้อยละ 42.95 ในต้นปีงบประมาณ 2554 เป็นร้อยละ 40.29 ในปลายปีงบประมาณ 2554
         
- มีนักวิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น กล่าวคือ ในปี 2553 มี 6 คน (ประสิทธิ์, อุลัย,จอมไพร ,อำไพ, สมพร และสมบัติ ) ในปี 2554 เพิ่ม 10 คน (รวมมีนักวิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ดี 16 คน)
         
- มีนักวิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสกลนคร (ชมรมกรีฑาผู้สูงอายุจังหวัดสกลนคร) จำนวน 4 คน (ประสิทธิ์, อุลัย, สมพร และสมบัติ) เป็นตัวแทนไปร่วมแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 17 ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สรุป ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
          ปัญหาอุปสรรคที่พบ การปล่อยตัวนักวิ่งสาย จัดพิธีการยืดเยื้อ ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมเบื่อหน่าย แก้ไขโดยการปล่อยตัวนักวิ่งตามเวลาที่กำหนดไว้ และจัดให้มีพิธีการที่กระชับ เรียบง่าย  แนวโน้มความยั่งยืนนั้น น่าจะมีความยั่งยืนเนื่องจากมีภาคีเครือข่ายและกลุ่มผู้รับผิดชอบกิจกรรมในชุมชนที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ประกอบกับมีระบบการทำงานร่วมกัน มีการระบุภารกิจของภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมอย่างชัดเจน และมีองค์กรสนับสนุนงบประมาณในระดับตำบล ซึ่งร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการสนับสนุนกิจกรรม

วิจารณ์ผล
โครงการนี้ เกิดผลสัมฤทธิ์ในการลดค่า BMI ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการประเมินผลในระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น แต่หากพิจารณาในเชิงสังคมและการมีส่วนร่วมแล้ว โครงการนี้ทำให้เกิดสังคมที่เอื้ออาทร-มีกลุ่มต่างๆ ช่วยเหลือกันในการทำกิจกรรม ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ควรมีการส่งเสริมต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น